Vancouver Is One of Largest Hub AR/VR in The World
เมื่อพูดถึงเมืองแห่งอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี หลายๆคนน่าจะคิดถึง Silicon Valley เป็นหลัก แต่หลังจากนี้เราอาจจะได้เห็นเมืองที่จะเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมทั้ง 2 อย่างนี้อีก 1 แห่งนั่นคือเมือง Vancouver ประเทศแคนาดา ซึ่งในปีนี้ทางเมืองก็ได้เป็นเจ้าภาพจัดการ Conference ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี AR/VR ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกนี้เลยก็ว่าได้
งาน VRARA VR/AR Global Summit 2018 เป็นงานที่จะรวมเหล่า StartUp และบริษัทพัฒนาเทคโนโลยี AR/VR และ MR เอาไว้มากที่สุดภายในงานเดียว โดยงานนี้มีเจ้าภาพร่วมมากกว่า 15 บริษัทชั้นนำที่มีสำนักงานอยู่ในเมือง Vancouver และนอกจากนั้นยังมีการเปิดตัวบริษัทเล็กๆและ StartUp ที่กำลังมาแรงในอุตสาหกรรมเหล่านี้อีกมากกว่า 200 บริษัท ซึ่งเหตุผลที่ทำไมงานนี้ถึงเลือกจัดที่เมืองนี้ก็เพราะว่าปัจจุบันเมือง Vancouver ถือว่าเป็น Hub หรือจะเรียกว่าศูนย์กลางเทคโนโลยีเสมือนจริงและสามมิติแห่งใหม่บนโลกนี้เลยก็ว่าได้ เพราะหลายๆบริษัทก็ต่างมาเปิดสำนักงานกันที่นี่เป็นจำนวนมากในระยะเวลาเพียง 12 เดือนเท่านั้น ไม่วาจะเป็นบริษัทด้านการผลิต Hardware อย่างเช่น Samsung, Omega หรือที่ดังๆและคนไทยรู้จักกันเยอะเช่น Microsoft รวมไปถึงผู้พัฒนา Software อีกเป็นจำนวนมากด้วย
ไม่ใช่แค่ภาคเอกชนเท่านั้น แม้แต่ภาครัฐและท้องถิ่นต่างก็มองเห็นศักยภาพของเทคโนโลยีทั้ง 3 นี้ว่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในโลกอนาคต เลยทำให้ VR/AR Association ผู้ที่เป็นประธานดำเนินงาน Conference ครั้งนี้ได้กล้าที่จะมาลงทุนจัดงานกันในปีนี้ ทางด้านทีมงานเองก็รู้สึกเห็นด้วยว่าเมืองนี้มีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นศูนย์กลางลำดับต้นๆของโลกได้ในอนาคตและเผลอๆก็อาจจะเป็นเบอร์ 1 ของโลกอีกด้วย ถ้าหากมีการผลักดันกันดีๆและสนับสนุนกันทุกๆฝ่ายครับ
สำหรับงาน VRARA VR/AR Global Summit 2018 นี้จะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 21 – 22 กันยายนนี้ ณ ParQ Hotel & Casino ใจกลางเมือง Vancouver ประเทศแคนาดา ซึ่งผลของงานนี้น่าจะเป็นการเปิดประตูต้อนรับเหล่านักพัฒนาหรือผู้ที่คิดจะเปลี่ยนโลกโดยใช้เทคโนโลยีทั้ง 3 ที่กล่าวไปให้เข้ามาลงทุนและพัฒนาโปรเจคแจ่มๆให้คนทั้งโลกได้ใช้งานกันมากขึ้น สำหรับใครที่มีโอกาสเดินทางไปที่เมืองนี้ในช่วงเวลาดังกล่าวก็ถือว่าเป็นโอกาสดีอย่างยิ่งที่จะได้สัมผัสงานยักษ์แห่งแวดวงเทคโนโลยีเสมือนจริงเหล่านี้นะครับ ยังไงก็บอกทีมงานกันด้วยและอนาคตก็หวังอย่างยิ่งว่า StartUp ในเมืองไทยของเราจะได้ไปเป็นตัวแทนของประเทศเพื่อโชว์ผลงานของเราให้ต่างชาติได้ทึ่งกันในงานแบบนี้บ้างนะครับ
