สถานีตำรวจเมืองนิวยอร์กเปิดตัววิธีการฝึกซ้อมในรูปแบบ Virtual Reality

ยุคใหม่ของการฝึกอบรมสำหรับตำรวจ

ก่อนหน้านี้เคยมีกองทัพของประเทศอังกฤษนำเทคโนโลยี VR มาเป็นส่วนหนึ่งสำหรับการฝึกทหารแล้ว วันนี้ทีมงาน SiamVR มีอีก 1 ข่าวที่เกี่ยวกับการฝึกฝนด้วยแว่นเสมือนจริงกันบ้าง แต่รอบนี้เป็นทางตำรวจที่มาฝึกแทน ซึ่งการฝึกอบรมครั้งนี้ยังเป็นการเปิดมิติใหม่ของการฝึกฝนเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินในอนาคต ซึ่งระบบนี้ยังเป็นต้นแบบที่จะนำไปใช้กับรัฐอื่นๆเช่นกัน

ทางสถานีตำรวจเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาได้นำร่องการฝึกฝนด้วยเทคโนโลยี Virtual Reality เป็นแห่งแรกของประเทศ ซึ่งระบบการฝึกฝนแบบนี้ได้ถอดแบบจำลองมาจากร้าน VR Arcade ที่เป็นแบบ Location-Based ที่จะมีการจำลองเหตุการณ์ขึ้นมาเป็นภารกิจให้เลือกไม่ว่าจะเป็นการฝึกซ้อมยิงปืนกับเป้า รวมไปถึงภารกิจจำลองสถานการณ์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ตำรวจทุกนายได้คุ้นชินและตื่นตัวเพื่อพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต โดยที่ผู้ฝึกจะทำการสวมใส่ Backpack PC และสวมแว่น VR เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับคอมฯส่วนกลางที่จะควบคุมผู้เล่นและตัวเกมอีกทีหนึ่ง นอกจากนั้นแล้วยังมีความพิเศษตรงที่อาวุธปืนจะถูกทำใหม่ให้มีน้ำหนักและแรงถีบเหมือนกับปืนของจริงที่ใช้งานกันอยู่แล้ว เพื่อให้ผู้ฝึกเกิดความคุ้นเคยให้มากที่สุดและช่วยฝึกให้เกิดความระมัดระวังมากขึ้นในระหว่างการฝึกเช่นเดียวกัน

NYPD-VR-gif

ในส่วนข้อดีของการฝึกฝนแบบ Virtual Reality นั้นจะทำให้ทางหน่วยงานได้ประหยัดงบประมาณในการจัดการทดสอบ ซึ่งถ้าเกิดเป็นการฝึกของจริงก็จะมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของสถานที่และอุปกรณ์ต่างๆเป็นจำนวนมาก แถมยังฝึกฝนได้บ่อยเท่าที่อยากจะฝึกด้วย นอกจากนั้นทางด้านผู้พัฒนายังสามารถกำหนดหรือแก้ไขภารกิจที่มีอยู่ให้มึการพลิกแพลงมากขึ้น แต่สำหรับข้อเสียของการฝึกแบบนี้ก็มีเพียงแค่เรื่องของความสมจริงเท่านั้น เพราะตัวเกมที่ใช้ฝึกนั้นเป็นเพียงภาพกราฟิกธรรมดาๆยังไม่ได้มีการพัฒนาให้เหมือนกับการฝึกของจริงเท่านั้นเอง

เห็นแล้วก็อดคิดถึงร้าน VR Arcade ในบ้านเราไม่ได้เลยจริงๆ ซึ่งทางกรมตำรวจนั้นจะเริ่มทยอยใช้วิธีนี้แก่เหล่าตำรวจทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาต่อไป สำหรับวิธีนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยนะครับ เพราะนอกจากจะลดค่าใช้จ่ายในการซ้อมแล้วยังเป็นการประหยัดภาษีจากประชาชนอยู่ไม่น้อย แถมยังสามารถฝึกได้เรื่อยๆจนกว่าจะชำนาญการ ไม่แน่ว่าในอนาคตข้างหน้า กรมตำรวจของไทยก็อาจจะนำวิธีนี้เข้ามาฝึกฝนกับเหล่าตำรวจของบ้านเราบ้างนะครับ