ประกาศจาก Nate Mitchell อดีตผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ VR ระดับโลก
Nate Mitchell 1 ในผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ด้าน Virtual Reality อย่าง Oculus ประกาศข่าวสำคัญออกมาว่า เขากำลังจะลาออกจาก Facebook หลังจากร่วมงานกับแบรนด์นี้มานานกว่า 7 ปี นับตั้งแต่ปี 2012 โดยเจ้าตัวได้มีการประกาศผ่านเว็บไซต์ตั้งกระทู้ชื่อดังอย่าง Reddit ไปเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมเผยเส้นทางต่อไปที่เขาจะไปต่อหลังจากนี้
โดยในเว็บไซต์กระทู้บนเว็บไซต์ Reddit ได้มีข้อความว่า
“เฮ้ทุกคน ผมมีข่าวสำคัญอยากจะประกาศให้กับทุกคนใน Community นี้ได้ทราบกัน หลังจากที่ผมร่วมเดินทางในเส้นทางนี้มากว่า 7 ปี วันนี้ผมได้ตัดสินใจแยกทางกับ Oculus / Facebook เป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
“นับตั้งแต่การเปิดระดมทุนคน Kickstarter ในปี 2012 ที่ผ่านมา เทคโนโลยี VR นั้นดูเหมือนจะเป็นนิยายวิทยาศาสตร์ที่ไม่อาจเป็นไปได้ ผู้ที่เข้ามาดูพวกเราก็ไม่รู้ว่าเราจะเอาจริงเอาจังกับโครงการนี้ขนาดไหน เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโครงการนี้จะระดมทุนได้ตามเป้าหรือไม่ แต่เพราะ Community แห่งนี้ที่ช่วยกันทำให้โครงนี้ได้เป็นจริงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาแต่ละปีที่ผ่านมา ที่มันเกิดขึ้นมาได้ก็เพราะพวกคุณทุกๆคนที่ช่วยกันสนับสนุน”
“Virtual Reality ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่จะต้องค้นคว้าและพัฒนาต่อไป แม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าของเทคโนโลยีตัวนี้จะเป็นอย่างไรก็ขอให้ทุกคนจงกล้าหาญและไล่ตามอนาคตต่อไป ส่วนตัวผมจะยังคงอยู่ใน Community แห่งนี้ต่อไป แม้ว่าบทบาทของผมจะเล็กลงก็ตามแต่ ผมคาดหวังว่าทีมพัฒนาของ Facebook จะยังพัฒนาและสร้างความประหลาดใจให้กับพวกเราต่อไป ผมอดใจรอไม่ไหวแล้ว่าพวกเขาจะทำอะไรให้เราได้ทึ่งต่อไปในอนาคต”
“สำหรับทุกๆคนในที่แห่งนี้ (หมายถึงกลุ่ม Community ของ Oculus) ขอขอบคุณทุกๆกำลังใจและความปรารถณาดีจากทุกๆคน ขอบคุณที่เชื่อมั่น แม้จะเป็นสิ่งที่อาจเป็นไปไม่ได้ ขอบคุณทุกแรงบันดาลใจที่มีให้กับพวกเราในทุกๆวัน ขอบคุณสำหรับ 7 ปีที่น่าตื่นเต้น”
ถือว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อตั้ง Oculus คนสุดท้ายที่เหลืออยู่ หลังจากการเข้าซื้อกิจการของ Mark Zuckerburg ในปี 2017 ที่ผ่านมา โดยกลุ่มผู้ก่อตั้งนอกจากเจ้าตัวแล้วก็มี Palmer Luckey, Brendan Iribe และ Michael Antonov ถือว่าเป็นการปิดฉากกลุ่มผู้ก่อตั้งรุ่นแรกอย่างเป็นทางการ และหลังจากนี้ก็จะเป็นยุคที่ 2 ของวงการ Virtual Reality อย่างเป็นทางการ และน่าจะพูดได้อย่างเต็มปากว่าหลังจากนี้ วงการ VR จะเป็นการเดินทางในเชิงพาณิชย์อย่างเต็มตัวแล้ว
