ปล่อยของต่อเนื่องสำหรับ Varjo ที่ประกาศเปิดตัวแว่นเสมือนจริง 2 รุ่นทั้งแบบ XR และ VR พร้อมชูโรงด้วยหน้าจอคมชัดขั้นสุดเทียบเท่า iPad เลยทีเดียว

วันนี้ทาง Varjo ผู้ผลิตและพัฒนาแว่นเสมือนจริงระดับ Hi-End จากกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ได้ประกาศเปิดตัวแว่นเสมือนจริงใหม่ถึง 2 รุ่น โดยให้ชื่อว่า XR-3 และ VR-3 และทั้ง 2 รุ่นนี้จะมีการใช้หน้าจอพิเศษแบบ Retina ที่มีความสามารถในการแสดงผลความละเอียดสูง ซึ่งเป็นหน้าจอแบบเดียวกันกับที่ใช้ใน iPad Pro หรือ Macbook เดี๋ยวเรามาดูกันว่าในแต่ละรุ่นที่เปิดตัวนั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง

varjo-xr-3-vr-3-20

XR-3

เป็นแว่นตัวแรกที่ได้ประกาศเปิดตัวออกมา โดยทางค่ายนั้นได้ชูจุดเด่นของตัวแว่นที่สามารถทำงานได้ในระบบ Mixed Reality สามารถใช้ระบบการติดตามทั้งแบบ SteamVR หรือจะเป็นแบบ Inside-Out ก็ได้โดยใช้เพียงแค่กล้องที่ติดกับตัวแว่น ซึ่งกล้องดังกล่าวนั้นจะมีความพิเศษที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ เพราะสามารถใช้ได้กับหลายฟังค์ชั่น ไม่ว่าจะเป็นการติดตาม การถ่ายภาพและแสดงผลแบบ Passthrough หรือจะทำหน้าที่เป็น Sensor ตรวจจับสิ่งต่างๆรอบตัวได้ ที่สำคัญคือมาพร้อมกับระบบ LiDAR Scanner ที่ช่วยในการประมวลผลภาพจากกล้องแบบ Real-Time ซึ่งจะช่วยให้การมองเห็นของผู้ใช้งานนั้นมีความแม่นยำมากที่สุด

VR-3

สำหรับรุ่นเล็กตัวนี้ก็จะมีเทคโนโลยีที่เหมือนกับตัว XR-3 เช่นเดียวกัน แต่ก็จะตัดบางฟังค์ชั่นที่ไม่จำเป็นต่อเทคโนโลยี Virtual Reality ออกไปเพื่อเป็นตัวเลือกให้กับทางผู้ที่สนใจได้เลือกใช้งานกันตามความสะดวก แต่โดยภาพรวมของแว่นรุ่นนี้ก็ยังคงเป็นแว่นเสมือนจริงระดับ Hi-End เช่นเดิม รวมไปถึงราคาของตัวแว่นนั้นก็จะถูกกว่ารุ่น XR-3 อยู่พอสมควรเลยทีเดียว นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีอุปกรณ์เสริมที่จะมีการขายแบบ Add-on เพิ่มเติมให้กับแว่นทั้ง 2 รุ่นด้วยเช่นกัน และเมื่อเปรียบเทียบกับแว่นรุ่นก่อนๆในค่ายก็สามารถดูได้จากตารางด้านล่างนี้

ประเภทของแว่นXR-2 ProVR-3XR-1XR-3
ราคาแว่น$6,000$3,200$10,000$5,500
ส่วนเสริม$1.000$800$1,000$1,500
ราคารวม$7,000$4,000$11,000$7,000

ใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปสั่งซื้อกันได้ที่ Official Website ของทางค่ายได้เลย สำหรับตัวแว่นทั้ง 2 รุ่นอาจจะมีราคาที่สูงกว่าแว่นเสมือนจริงในท้องตลาดอยู่พอสมควร แต่ก็เป็นอีก 1 ทางเลือกให้กับผู้ใช้งานที่ต้องการใช้แว่นเสมือนจริงในระดับ Hi-End โดยเฉพาะหรืออยากได้ความพิเศษที่ไม่เหมือนกับแบรนด์อื่นๆ ดังนั้นผู้ที่สนใจก็ลองชั่งน้ำหนักในเรื่องของประสิทธิภาพกับราคาดูนะครับ