เริ่มลงมือทดสอบระบบ Cloud Gaming เฉพาะภายในของ Meta เพื่อให้ Quest 2 สามารถเล่นเกม VR ของ PC ได้ทันที ขอแค่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่แรงพอเท่านั้น

ระบบ Cloud Gaming ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มการเล่นเกมที่กำลังน่าจับตามองในขณะนี้ ซึ่งมีหลายบริษัทที่ได้เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งทาง Meta เองก็มีการพัฒนาระบบนี้ด้วยและมีการอัปเดตข้อมูลล่าสุดแล้วว่าตอนนี้กำลังมีการเปิดทดสอบภายในบริษัทกันอยู่ เพื่อเก็บข้อมูลในการใช้งานและตรวจสอบปัญหาในการใช้งาน เพื่อแก้ไขก่อนที่จะเปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการต่อไป

ในเว็บไซต์ Reddit มีผู้ใช้งานที่ชื่อว่า Samulia ได้ทำการค้นเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่น 24 ที่อัปเดตในช่วงปลายปี 2020 ซึ่งทำให้เรานั้นได้ทราบว่าตอนนี้ทางบริษัทได้ทำการเปิด Cloud Gaming เรียบร้อยแล้ว ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าวมีชื่อว่า Avalanche และมีการเปิดทดสอบเฉพาะภายในบริษัทเท่านั้น ซึ่งเป็นข้อมูลเดียวกันกับ Brad Lynch ที่เป็นนักวิเคราะห์เทคโนโลยีชื่อดังบน Youtube ที่ออกมาบอกว่าทางบริษัทนั้นกำลังมีการทดสอบอะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับระบบ Cloud Gaming ซึ่ง Code ที่มีการค้นเจอนั้นมีดังต่อไปนี้

AVALANCHE_CLOUD_GAMING_INFRA_ENABLED

(“oculus_systemux:oculus_avalanche_cloud_gaming_infra_enabled”)

สำหรับผลการทดสอบ ณ ปัจจุบันนี้ที่ทาง Brad Lynch ได้ข้อมูลมานั้นได้ผลลัพธ์ในการทดสอบออกมาว่ายังดีไม่พอและยังต้องปรับปรุงระบบกันอีกเยอะ โดยส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะทางผู้ทดสอบไม่ได้อยู่ในโซนเดียวกับที่เซิร์ฟเวอร์ได้เปิดให้บริการ จึงทำให้เกิดค่า Latency ในการใช้งาน ซึ่งจุดสำคัญของระบบ Cloud Gaming นั้นก็คืออินเตอร์เน็ต เพราะจำเป็นต้องการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อรับ – ส่งข้อมูลขนาดใหญ่แบบ Real-Time หรือให้ได้ใกล้เคียงกับการเล่นเกมบน PC ผ่าน Client ที่ติดตั้งเอาไว้ ซึ่งทางบริษัทก็ต้องเก็บข้อมูลส่วนนี้และเอาไปแก้พัฒนากันต่อไปในอนาคต

quest-2-front

ทางทีมงาน SiamVR เชื่อว่าแพลตฟอร์มนี้จะเป็นหมุดหมายที่สำคัญของวงการ VR เพราะถ้าเราสามารถเล่นเกมได้จริงๆ เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้แว่นสเปคสูงๆ แต่ขอเพียงแค่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตแรงๆ และให้ภาระการทำงานเป็นของเซิร์ฟเวอร์ไปจะดีกว่า ซึ่งถ้าเกิดมีการอัปเดตเพิ่มเติมอีกเมื่อไหร่เดี๋ยวทีมงานจะนำข่าวมาแจ้งให้ทราบกันต่อไปนะครับ