Oculus Rift คืออะไร
จากโครงการเล็กๆที่เปิดรับระดมทุนกันในเว็บไซต์ Kickstarter ในชื่อ The Rift ตอนปี 2012 เป็นเวลา 4 ปีเต็มๆ สำหรับการพัฒนาที่เริ่มจาก DK 1 จนมาถึง DK 2 มีการเปลี่ยนทั้งรูปร่างลักษณะภายนอกต่างๆมากมาย รวมทั้งเทคโนโลยีที่พัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถใช้งานได้ดีขึ้น และไม่ลืมที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับแว่นทั้ง 2 รุ่นก่อนหน้านี้อีกด้วย จึงทำให้ Oculus Rift เปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นศักราชของแว่น Virtual Reality อย่างแท้จริง วันนี้เราจะมาตรวจสอบค้นหาความเจ๋งของเจ้าแว่นตัวนี้กันครับ
รีวิว Oculus Rift
เริ่มแรกเราจะมาดูหน้าตาภายนอกกันก่อนสำหรับกล่องที่บรรจุแว่นตาตัวนี้ จะเป็นสีดำเงา ให้ความรู้สึกที่หรูหราเกินคำบรรยายจริงๆ มีที่จับทำให้เราสามารถหิ้วไปเล่นที่ไหนก็ได้ง่ายๆและสะดวกมากยิ่งขึ้น เมื่อเปิดกล่องขึ้นมาแล้วจะพบกับแว่นตาและ Bundle ต่างๆที่มาพร้อมกับแว่นตัวนี้ โดยจะมีช่องใส่ต่างๆ พร้อมกับแผ่นโฟมกันกระแทกอย่างดี นอกจากอุปกรณ์จะเจ๋งแล้ว ทางผู้ผลิตเองก็ไม่ลืมที่ให้ความสำคัญในเรื่องของแพ็คเก็จการเก็บสินค้าให้มีความปลอดภัยจนกว่าจะถึงมือของผู้ใช้งานอีกด้วย สำหรับอุปกรณ์ที่มาในกล่องนั้นมีดังนี้
- Oculus Rift headset with integrated headphones and mic (แว่นตาที่มีหูฟังแบบครอบติดมาด้วย)
- Oculus Sensor (ตัวจับเซ็นเซอร์)
- Oculus Remote (รีโมทคอนโทรลสำหรับสั่งการ)
- Xbox One Wireless Controller (2 AA batteries, adapter and extender included) (จอยสติ๊กจาก Xbox One และอแดปเตอร์สำหรับชาร์ตพลังงาน)
- All necessary connection cords and an audio tool to remove/add integrated headphones (สายเสียบเพิ่มเติมสำหรับอุปกรณ์เสียง)
หลังจากที่เราได้ทราบถึงอุปกรณ์ต่างๆที่มาพร้อมกับกล่องบรรจุภัณฑ์อันนี้กันแล้ว เราก็มาประกอบเพื่อใช้งานได้ทันทีเลยครับ โดยทาง Oculus Rift จะมีแอปพลิเคชั่นของตัวเองโดยมีชื่อว่า Oculus Home ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านของผู้ใช้งาน Oculus Rift ทั่วโลก โดยตัวแอปพลิเคชั่นจะเนรมิตห้องรับแขกขนาดใหญ่ขึ้นมา ส่วนตรงข้างหน้าเรานั้นจะเป็นเมนูของแอปต่างๆที่ใช้งานร่วมกันกับ แว่น VR ของเรา นอกจากนี้เรายังสามารถติดต่อสื่อสารกับเพื่อนที่ใช้งานแอปพลิเคชั่นนี้ได้อีกด้วย และด้วยคำสั่งนี้ เราจะสามารถพูดคุยกับเพื่อนๆไปพร้อมกับเล่นเกม ทำให้ผู้เล่นรู้สึกถึงความสนุกเหมือนกับมีเพี่อนมาเล่นอยู่ในบ้านหลังเดียวกันกับเรานั่นเอง ซึ่งการใช้งานนั้นสามารถใช้ได้ทั้งจอย Xbox One และ Remote ของเราได้ทันที
ในส่วนของวัสดุที่นำมาทำแว่นตาอันนี้นั้นเป็นพลาสติก และมีผ้าอยู่ด้านใน ทำให้ผู้สวมใส่ไม่รู้สึกปวดหัวเวลาใช้งานแว่นตาไปนานๆ และยังสามารถปรับความยาวของขนาดแว่นได้อีกด้วย สำหรับใครที่มีศีรษะใหญ่ ไม่ต้องกังวลว่าซื้อมาแล้วจะใส่ไม่ได้ หรือใส่ได้แต่คับแคบ นอกจากนี้ทางผู้พัฒนายังดีไซต์แว่นตาและโครงสร้างของแว่นออกมาให้เหมือนกับหมวกของนักอเมริกันฟุตบอล นอกจากเท่ห์แล้วยังสวมใส่ง่าย สบายศีรษะอีกด้วย
ส่วนสำคัญของแว่นตานี้จะขาดไปไม่ได้เลยนั่นคือหน้าจอที่ใช้แสดงภาพนั่นเอง หน้าจอเป็นแบบ OLEDs ที่ให้ภาพที่คมชัดระดับ Full HD อัตราส่วน 1,200×1,800 Pixels ต่อข้าง พร้อมกับค่า Refresh Rate ที่ 90 Hz ซึ่งผลของเทคโนโลยีนี้ทำให้เราสามารถดูไฟล์วิดีโอที่มีเฟรมเรตสูงสุดได้ถึง 90 เฟรมต่อวินาทีเลยทีเดียว ไม่ชัดก็ให้รู้ไปสิครับ ผู้พัฒนาเขาจัดมาให้ขนาดนี้แล้ว เมื่อเล่าถึงระบบแสดงผลของภาพไปแล้ว ทีนี้ก็มาพูดถึงระบบเสียงที่ผ่านมาด้วยนะครับ ต้องบอกว่าจัดมาแบบไม่กั๊กกันเลยกับระบบเสียง 3D ที่ให้คุณภาพเสียงแบบชัดๆชนิดที่อะไรบินผ่านหูแว๊บเดียวก็ยังได้ยินแบบชัดเจน
สำหรับพื้นที่การใช้งานนั้น ทางทีมงานก็ขอแนะนำให้มีพื้นที่ไว้สำหรับเคลื่อนไหวซักเล็กน้อยนะครับ ใหญ่ไปสายอาจจะตึง เอาเป็นว่าขอให้พอดีๆไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไปละกัน ซึ่งใครที่อยากรู้ว่าใหญ่ขนาดไหนถึงจะพอดี เรามีวิดีโอสาธิตการใช้งานและเล่นเกมตัวอย่างให้ชมกันนะครับ
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมอีกชิ้นหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้าม นั่นคือ Remote นั่นเอง ซึ่งเราจะสามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่นบางอันได้ โดยส่วนใหญ่แล้วเวลาเล่นเกมเราจะใช้จอยสติ๊ก Xbox One อยู่แล้ว แต่ Remote จะมีหน้าที่สั่งการของแว่นตาอีกทีนึงนั่นเอง
เมื่อเรารู้ถึงความสามารถของอุปกรณ์ทุกอย่างแล้วก็ต้องมาเล่นกันซักหน่อย ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีเกมที่ทำออกมารองรับระบบของ เครื่อง Oculus Rift มากมายหลายเกมมาก ผู้อ่านสามารถหาอ่านย้อนหลังได้ครับสำหรับเกมที่ทำออกมาเพื่อรองรับแว่น VR ตัวนี้ บางเกมมีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันก็มี บางเกมแจกฟรีก็เยอะ มีมากมายจนนับไม่ถ้วนให้เราได้เลือกเล่นกันอย่างสนุกสนานกันเลยทีเดียว สำหรับคุณสมบัติของแว่นตา Oculus Rift นี้จะโหดขนาดไหนกัน เรามีคุณสมบัติทั้งหมดของแว่นตาตัวนี้ให้ผู้อ่านได้พิจารณากันครับ
คุณสมบัติของแว่นตา Oculus Rift
Orientation sensors: Gyroscope, accelerometer
Display resolution: 1200×1080 (per eye)
Display refresh rate: 90Hz
Lens spacing adjustment: 58-72mm
Headset cable: 4m custom cable
Replaceable facial interface
ตัวตรวจจับสัญญาณ
Sensor mount: Integrated stand, 1/4-20 camera mount compatible
Integrated constellation tracking
Sensor cable: 2.5m cable
คุณสมบัติของคอมพิวเตอร์ที่ผู้พัฒนาแนะนำ เพื่อการใช้งานที่ไหลลื่น
Graphics Card: NVIDIA GTX 970/AMD R9 290 equivalent or greater
Processor: Intel i5-4590 equivalent or greater
Memory: 8GB+ RAM
Output: HDMI-compatible 1.3 video output
Operating System: Windows 7 SP1 64-bit or newer
Inputs: 3x USB 3.0 ports, 1x USB 2.0
นอกจากอุปกรณ์และคุณสมบัติที่กล่าวไว้แล้ว ทีมงานยังได้ข่าวอีกว่า ทางผู้พัฒนากำลังพัฒนาจอยสติ๊กเพื่อนำมาใช้งานร่วมกันกับแว่น Oculus Rift โดยถือว่าเป็นจอยสติ๊กเฉพาะเลยก็ว่าได้ ถึงหน้าตาของจอยสติ๊กตัวนี้จะคล้ายๆกับคันโยกไกปืนและมีปุ่นกดพร้อมกับที่บังคับทิศทางทั้ง 2 ฝั่งอีกด้วย
Oculus Rift ซื้อที่ไหน ราคาเท่าไร
สำหรับใครที่สนใจแว่นตาตัวนี้ ตอนนี้ทางผู้พัฒนาก็ได้วางขายเรียบร้อยแล้ว Oculus Rift ซื้อที่ไหน ราคาเท่าไร สนนราคาอยู่ที่ $599 หรือประมาน 18,000 บาทตามสกุลเงินของบ้านเรานั่นเองครับ ใครซื้อมาแล้วก็ชวนทีมงานไปเล่นด้วยคนนะครับ