ทำเกมขายก็รวยได้เหมือนกันนะ
วันนี้ทีมงานมีบทความดีๆมาแบ่งปันให้กับแฟนๆ SiamVR ได้อ่านกันนะครับ หลายๆหนแล้วที่ทีมงานเคยนำเสนอข่าวเกม VR จากค่ายต่างๆรวมทั้งเกม VR ของประเทศไทยเราเอง แต่เคยสงสัยกันบ้างไหมครับว่าหลังจากที่เริ่มต้นร่าง Concept Art เขียนโปรแกรมแล้วก็มาทำอนิเมชั่นจนกระทั่งแก้บัค กว่าจะออกมาเป็นเกมให้เราได้เล่นนั้นต้องเจอกับอะไรกันบ้างแล้วพวกเขาจะได้รายได้จากการสร้างเกมมาให้พวกเราเล่นกันอย่างไรบ้าง วันนี้ทีมงานมีคำตอบมาบอกให้ผู้อ่านได้รับทราบกัน และถ้าใครอยากเป็นนักพัฒนาเกมก็ควรต้องอ่านอย่างยิ่งเลยนะครับ และความเห็นส่วนหนึ่งก็จะมาจากประสบการณ์ที่ผู้เขียนเป็นนักพัฒนาเกมอีกด้วยครับ
อันดับแรกหลังจากที่มีความคิดริเริ่มจะพัฒนาเกมนั้น เราก็ต้องมี Game Design หรือไกด์ตัวอย่างของเกมเราก่อน และทุนทรัพย์ค่าใช้จ่ายในการจ้างโปรแกรมเมอร์รวมไปถึงกราฟฟิคดีไซด์นอกจากนั้นยังมีรายละเอียดยิบย่อยต่างๆนาๆอีกด้วย และพอหลังจากทำเกมออกมาเป็นรูปเป็นร่างแล้วนั้นก็ต้องมีการทดสอบเพื่อหาข้อผิดพลาดต่างๆนาๆอีกด้วยจนกระทั่งถึงวันที่วางจำหน่ายหรือเปิดให้บริการเสียที และหลังจากนี้ก็จะวัดดวงกับผู้เล่นแล้วว่าเกมนี้จะปังหรือจะพัง รูปแบบการขายก็ถือว่าสำคัญไม่น้อยเลยครับ ซึ่งการขายเกมหรือให้บริการเกมนั้นแบ่งได้เป็น 4 ประเภทได้แก่
1.ขายเกมแบบ Full Package
การขายเกมแบบ Full Package หรือภาษาชาวบ้านคือขายเกมแบบซื้อขาดทีเดียวจบนั้นเป็นการขายเกมที่นิยมขายกันมาตั้งแต่สมัยที่วิดีโอเกมเฟื่องฟู การขายเกมแบบนี้ถ้าเกมไม่โดนใจผู้เล่นหรือไม่มีจุดเด่นให้น่าติดตามก็มีสิทธิ์เจ๊งได้ง่ายๆ ดังนั้นการที่นักพัฒนาเกมต้องการขายเกมในลักษณะนี้จะต้องมั่นใจว่าเนื้อหาน่าติดตามหรือมีจุดเด่นที่เข้าตาผู้เล่น ทำให้เกิดเป็นอาชีพนักเขียนบทหรือนักวางแผนที่เกี่ยวกับเกมอีกด้วยนะครับ
2.ขายแบบ Lite Version – Full Version
การขายเกมแบบให้ผู้เล่นโหลดตัวอย่างเกมไปเล่นก่อน พอเมื่อถึงกำหนดที่ตัวเกมจะล็อคไว้แล้วก็จะมี Pop-Up ให้ผู้เล่นชำระเงินซื้อตัวเกมแบบเต็มๆถ้าหากว่าเล่นแล้วถูกใจ การขายเกมแบบนี้เริ่มเป็นนิยมหลังจากการมาของอินเตอร์เน็ต เพราะทำให้ผู้เล่นสามารถโหลดเกมนี้ไปติดตั้งและเล่นก่อนได้ทันทีโดยไม่ต้องซื้อแผ่น ก็จัดว่าเป็นการวัดดวงของผู้พัฒนาเกมกับผู้เล่นอีกทางหนึ่งด้วยนะครับ แต่วิธีนี้เราก็จะสามารถรับทราบความคิดเห็นของผู้เล่นและแก้ไขได้อย่างทันท่วงทีอีกด้วยนะครับ
3.เปิดให้เล่นฟรีแต่แฝงโฆษณาเอาไว้
การขายแบบนี้จะเป็นการให้ผู้เล่นนั้นได้เล่นเกมเราแบบเต็มๆและฟรี โดยที่เราจะได้เงินจากการให้พื้นที่โฆษณากับบริษัท Advertise ต่างๆในโลกนี้ (ส่วนมากจะใช้ Code ของ Google เป็นหลัก) โฆษณามักจะปรากฏขึ้นมาระหว่างการเล่นหรือหลังจากจบการเล่นในแต่ละรอบเสียมากกว่า แต่การขายแบบนี้จะแบ่งออกได้ 2 ทางคือโฆษณาแฝงตามมุมต่างๆที่ไม่กระทบต่อการเล่นเกม และการแฝงโฆษณาเพื่อให้ผู้เล่นชำระเงินสนับสนุนเพื่อนำเอาป้ายโฆษณาเหล่านั้นออก ทำให้ผู้พัฒนาเกมได้เงินทั้ง 2 ทางอีกด้วย
4.การขาย Item Mall
วิธีสุดท้ายนี้จะเป็นการขายสินค้าในเกมแทนตัวเกม ผู้พัฒนาจะปล่อยตัวเกมออกมาในรูปแบบเต็มและอาจจะมีการแฝงโฆษณาเข้ามาไว้ด้วยก็ได้ แต่ว่าสิ่งของบางอย่างในเกมนั้นผู้เล่นจะต้องใช้วิธีการนำเงินจริงเข้าไปซื้อเพื่อให้ได้ไอเทมเหล่านั้นมาหรืออาจจะนำเงินจริงแลกเป็นเงินในเกมเพื่อใช้จับจ่ายซื้อสินค้าข้างในแทน วิธีเกมออนไลน์ส่วนใหญ่ในโลกมักจะใช้กันเพราะสามารถเพิ่มหรือลดปริมาณข้อมูลได้ตามใจและในสมัยนี้ก็มีเกมเมอร์กระเป๋าหนักอยู่หลายคนที่ยอมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อให้ได้เป็นที่ 1 ของเกมแต่ละเกมอีกด้วยนะครับ
ทั้ง 4 ประเภทที่ผู้เขียนได้เขียนไว้นี้ ก็ยังไม่สำคัญเท่ากับการที่ผู้พัฒนาเกมจะสร้างเกมที่มีจุดเด่นและมีความสนุกพร้อมกับเนื้อหาในเกมที่น่าติดตามหรอกครับ ถ้าเกมดีจริงแล้วไม่ว่าคุณจะขายด้วยวิธีไหนก็ตามแต่ผู้เล่นมากมายก็พร้อมที่จะควักเงินออกมาให้กับคุณได้แบบไม่คิดอะไรเลย เพราะเกมคือเครื่องมือที่สร้างความสุขให้กับเกมเมอร์อย่างแท้จริงครับ สุดท้ายนี้ผู้เขียนอยากบอกเรื่องสำคัญอีก 1 อย่างที่นักพัฒนาเกมต้องคำนึงถึงด้วยนั่นก็คือการป้องกันการใช้โปรแกรมช่วยเล่นหรือการ Hack ข้อมูลของเกมเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวจนทำให้เกมเสียสมดุลไป เพราะถ้าเมื่อไหร่เกมเสียสมดุล ผู้เล่นที่เคยเล่นเกมของเราก็จะหายไปจากระบบทีละคนจนไม่เหลือใครอย่างแน่นอนครับ ดังนั้นผู้พัฒนาเกมก็ต้องเอาใจใส่กับลูกค้าของเราไว้ด้วยนะครับหลังจากที่เราได้ขายเกมของเราไปแล้ว เพื่อเป็นการซื้อใจลูกค้าต่อไป และนี่ก็เป็นบทความที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเกม VR ในปัจจุบันนี้นะครับ หวังว่าเราจะได้มีเกม VR สัญชาติไทยออกมาเรื่อยๆนะครับ
