ใครที่เป็นสาวก GRAN TURISMO ที่ชอบความเสมือนจริงก็สบายใจได้
สตูดิโอผู้พัฒนาซีรี่ส์เกมรถแข่งสมจริงอย่าง GRAN TURISMO มีการเคลื่อนไหวออกมา หลังจากที่พัฒนาเกมออกมาถึง 7 ภาค ซึ่งกินระยะเวลามากว่า 20 ปีแล้ว ล่าสุดทาง CEO ของค่ายนี้ได้ออกมาเผยถึงระบบ VR ของเกมนี้ว่าในภาคต่อไปนั้นยังคงสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวต่อไป ซึ่งในอนาคตนั้นจะมีการเปิดตัวเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่อย่าง PS5 ในปี 2020 และทางค่ายก็จะก้าวไปพร้อมกัน
นาย Kazunori Yamauchi CEO ของ POLYPHONY DIGITAL ได้ออกมาให้สัมภาษณ์พิเศษกับเว็บไซต์ WIRED เกี่ยวกับเกม GT ว่า
“เทคโนโลยี Virtual Reality นั้น เหมาะสมอย่างยิ่งกับเกมแนว Simulation Racing โดยในโลกของ GT นั้น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกับเกมแข่งรถไหนๆ ยิ่งถ้าได้เล่นในระบบ VR ด้วยแล้ว ผู้เล่นก็จะได้รับประสบการณ์เฉกเช่นการขับรถจริงๆ ที่สำคัญคือไม่ว่าเกมภาคใหม่ๆ จะมาอีกกี่ภาค เราก็จะไม่พลาดที่จะนำรูปแบบการเล่นอย่างนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโลกแห่ง GT ด้วย”
โดยการให้สัมภาษณ์นี้ เห็นได้ชัดเจนเลยว่าทาง Sony ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของค่ายเกมนี้ ได้ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี VR เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับเกมที่แสดงผลของกราฟิกได้สุดยอดขนาดนี้
ล่าสุดทาง Sony นั้นก็มีการเผยข้อมูลคร่าวๆของ PS5 เครื่องคอนโซลรุ่นใหม่ที่จะมาวางจำหน่ายอีกไม่กี่ปีหลังจากนี้ ซึ่งมี CPU และ GPU ที่แรงกว่า PS4 หลายเท่า แถมยังมีการปรับปรุงในหลายๆด้าน ทำให้เกมในอนาคตนั้นจะมีภาพที่สมจริงและประมวลผลได้เร็วขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะเป็นผลดีแก่เกมเมอร์ทั่วโลก รวมไปถึงวงการแข่งรถด้วย เพราะเดี๋ยวนี้เริ่มจะเห็นการนำเกมดังกล่าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการฝึกฝนการขับรถบนสนามแข่งกันมากขึ้นและยังเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบการขับรถในชีวิตประจำวันของใครหลายๆคนอีกด้วย
แฟนๆของ GT ที่ชอบการขับรถผ่าน PSVR ก็น่าจะสบายใจกันได้นะครับ ทาง CEO ออกมายืนยันเองว่าเกมภาคต่อๆไป ยังไงก็ไม่ทิ้งระบบ VR อย่างแน่นอน แต่ว่าเกมภาคใหม่เนี่ยจะพัฒนาและวางจำหน่ายอีกเมื่อไหร่ คงต้องรอกันต่อไปนะครับ ส่วน PS5 ที่มีข่าวออกมานั้นก็ยังไม่มีวี่แววจะเปิดตัวจริงๆซักที แต่ก็คาดการณ์กันว่าเราคงจะได้เห็นกันใน 1 – 2 ปีหลังจากนี้แน่นอน ดังนั้นถ้าใครยังอยากได้ PS4 และ PSVR ในตอนนี้อยู่ก็สามารถหาซื้อมาเล่นกันก่อนได้นะครับ แล้วอย่าลืมหาเกมรถแข่งดีๆแบบนี้มาลองเล่นกันด้วยนะครับ ผู้เขียนแนะนำอย่างยิ่ง
