วัดกันเลยระหว่าง Oculus Rift S vs Oculus Quest จาก Facebook ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ชอบ Quest หรือ Rift S ก็เลือกเอาตามใจเลยครับ

หลังจากที่ Oculus เปิดตัว Rift S แว่น PC VR รุ่นอัพเกรดออกมาในงาน GDC 2019 เมื่อวันก่อน ทำให้หลายๆคนเริ่มคิดว่าแว่น VR ใหม่ล่าสุดของ Oculus ทั้ง 2 รุ่นนี้เป็นอย่างไรบ้างในเรื่องของคุณสมบัติต่างๆ ดังนั้นทาง SiamVR เลยจัดแมตช์พิเศษ เอา Oculus Quest มาเจอกับ Oculus Rift S เสียเลย จะได้ไม่ต้องคิดกันไปเองว่าแว่นตัวไหนเป็นอย่างไร โดยจะมีเกณฑ์วัดที่เหมาะสมและยุติธรรมกับทั้ง 2 รุ่นนี้เป็นตัวเปรียบเทียบนะครับ

oculus-quest-rift-s

แต่ก่อนจะเริ่มจับมาวัดกันนั้น เราจะต้องเข้าใจคุณสมบัติของแว่นทั้ง 2 รุ่น กันก่อนนะครับว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง ซึ่งข้อแตกต่างของคุณสมบัติเหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดว่าคุณเหมาะกับแว่นตัวไหนมากที่สุด โดยรายละเอียดของแว่นทั้ง 2 รุ่นมีดังนี้

Oculus Quest

  • ราคา : $399
  • วันที่วางจำหน่าย : ช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน 2019
  • น้ำหนัก : 470 กรัม
  • ระบบเสียง : ลำโพงภายใน พร้อมแจ็ค 3.5 mm 2 ช่อง
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 835 พร้อมระบบระบายความร้อนในตัว
  • ความละเอียด : 2,880 x 1,600 Pixels (1,440 x 1,600 Pixels ต่อตา 1 ข้าง)
  • ประเภทของหน้าจอ: Dual OLED
  • อัตราการรีเฟรช : 72 Hz
  • มุมมอง : 100 องศา
  • การปรับ IPD : สามารถปรับได้
  • ประเภทของ Tracking : “Insight” Inside-Out กล้อง 4 ตัว
  • ความสามารถ : รองรับระบบ 6DoF และติดตามตัว Controller
  • พลังงาน : แบตเตอรี่สามารถใช้งานอย่างต่อเนื่อง 2 – 2.30 ขั่วโมง ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
  • รองรับระบบ Passthrough และ Guardian

Oculus Rift S

  • ราคา : $399
  • วันที่วางจำหน่าย : ช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน 2019
  • น้ำหนัก : น้อยกว่า Rift เล็กน้อย
  • ระบบเสียง : ลำโพงภายใน พร้อมแจ็ค 3.5 mm
  • ความละเอียด : 2,560 x 1,600 Pixels (1,280 x 1,600 Pixels ต่อตา 1 ข้าง)
  • ประเภทของหน้าจอ: LCD
  • อัตราการรีเฟรช : 80 Hz
  • มุมมอง : มากกว่า Rift เล็กน้อย
  • การปรับ IPD : ปรับด้วย Software เท่านั้น
  • ประเภทของ Tracking : “Insight” Inside-Out กล้อง 5 ตัว
  • ความสามารถ : รองรับระบบ 6DoF และติดตามตัว Controller
  • การเชื่อมต่อ : ช่อง DisplayPort 1.2 และ USB 3.0 ขนาด 5 เมตร
  • รองรับระบบ Passthrough และ Guardian

หลังจากที่ได้เห็นรายละเอียดของแว่นทั้ง 2 รุ่นกันไปแล้ว ทุกๆคนจะเห็นถึงความแตกต่างสำหรับการใช้งานอยู่พอสมควร ทีนี้เราจะมาตั้งโจทย์เพื่อเปรียบเทียบกันนะครับ

รูปแบบการใช้งาน

oculus-quest-rift-s-working

Oculus Quest นั้นจะเป็นแว่น VR ที่ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบ VR Standalone ที่บรรจุชิพประมวลผลอยู่ภายใน ทำให้สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องพึ่งระบบประมวลผลจากภายนอก ส่วน Oculus Rift S คือรุ่นอัพเกรดจาก Rift เดิมที่ต้องเชื่อมต่อกับ PC หรือ Laptop ในการใช้งาน CPU และ GPU ของคอมในการประมวลผล ซึ่งความเร็วก็ขึ้นอยู่กับ CPU แต่ GPU ที่แนะนำสำหรับการใช้งานคือ Nvidia GTX 1060 หรือ AMD Radeon RX 480 ขึ้นไป ไม่งั้นรับประกันได้ 100% กระตุก ภาพแตกกระจายแน่นอนครับ ทีนี้ก็ลองพิจารณากันดูว่า Lifestyle ของตัวคุณนั้นเป็นแบบไหน เหมาะกับการใช้งานแบบใดมากที่สุด

แอพพลิเคชั่นที่ใช้งาน

beat-saber-quest-head

สำหรับการใช้แอพพลิเคชั่น ทาง Oculus ประกาศว่า Quest หรือ Rift S จะมีบางแอพฯที่สามารถใช้งานร่วมกันได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับทางผู้พัฒนาด้วยว่าจะเน้นให้ใช้งานในรูปแบบใดมากกว่ากัน แต่ทาง Oculus ก็มีการประกาศออกมาแล้วว่าเกมบางเกมจะสามารถเล่นได้ทั้ง Quest และ Rift S รวมไปถึง Rift ตัวแรกอีกเช่นกัน

ระบบติดตามที่ใช้เหมือนกัน

Oculus-Guardian

oculus-rift-s-controller

สิ่งที่น่าจะเหมือนกันของทั้ง Quest และ Rift S คือการใช้ระบบติดตาม Insight ที่ใช้กล้องที่ติดตั้งบนตัวแว่นเป็นอุปกรณ์ติดตามอุปกรณ์ภายนอก ซึ่งข้อแตกต่างคือจำนวนกล้องที่ Rift S จะมีมากกว่า Quest อยู่ 1 ตัว แล้วก็ทั้ง 2 รุ่นนี้ยังใช้ Controller ที่คล้ายกันอีกด้วย ดูแล้วก็น่าจะเป็นความตั้งใจของผู้พัฒนาที่อยากให้ใช้เทคโนโลยีเหมือนกัน

สรุปภาพรวมทั้งหมด

oculus-quest-with-controller

หากจะให้เลือกจริงๆว่าแว่น VR ทั้ง 2 รุ่นนี้อันไหนดีกว่ากัน ทีมงานคงจะสรุปให้ไม่ได้นะครับ แต่ถ้าจะให้ถามว่าแว่นตัวไหนเหมาะสมกับการใช้งานแบบใดอันนี้ทีมงานสามารถตอบได้เลยว่า ถ้าคุณเป็นคนเดินทาง ไม่ชอบพกสัมภาระเยอะนักและไม่ได้ติดแว่นแบบจริงจัง “Oculus Quest” ถือว่าเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์คุณมากกว่า เพราะมีหน่วยประมวลผลภายในพร้อมกับแบตเตอรี่ที่สามารถหยิบมาใช้งานได้ตามความสะดวกของผู้ใช้งาน

oculus-rift-s-with-controller

ส่วน Oculus Rift S นั้นจะต้องเชื่อมต่อกับ PC หรือ Laptop ของผู้ใช้งาน งบประมาณในการซื้อก็จะมากกว่า Quest อยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานว่าต้องการให้คอมฯแรงขนาดไหน โดยการ์ดจออย่างต่ำๆที่ต้องใช้งานก็มีงบอยู่ที่ราวๆ 6,000 บาทขึ้นไปจนถึง 25,xxx บาทเลยทีเดียว แต่สิ่งที่มาทดแทนคือเรื่องของภาพที่ยังไงก็สวยกว่าเพราะมี GPU ช่วยและพลังงานที่มาจากสาย USB 3.0 ที่เชื่อมต่ออยู่ ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบอยู่กับบ้านไม่ไปไหนหรือมี Laptop แรงๆสำหรับใช้ร่วมกับแว่น VR ก็ใช้ “Oculus Rift S” ก็ได้ครับ

แว่นทั้ง 2 รุ่นของ Oculus จะวางจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือประมาณเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายนปี 2019 นี้ ถ้าใครที่อยากได้ก็มีเวลาเก็บเงินกันอีกนานเลยทีเดียว สำหรับการอัพเดทข่าวของแว่นทั้ง 2 รุ่นก็สามารถติดตามไปพร้อมกับทีมงาน SiamVR ได้เลยครับ ถ้ามีการอัพเดทข่าวใหม่ๆมาเมื่อไหร่เดี๋ยวทางทีมงานจะนำข่าวมาแจ้งให้ทราบไปพร้อมๆกันแน่นอนครับผม