Facebook เผยว่า ยุคแรกของ Virtual Reality พึ่งจะจบไปและกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่ 2

ยุคแรกของ Virtual Reality ที่ Facebook หมายถึงอะไร มีคำเฉลยมาบอก

แม้ว่าแนวคิดของเทคโนโลยี Virtual Reality จะมีการพัฒนามาหลาย 10 ปีแล้ว แต่ในช่วง 4 – 5 ปีที่ผ่านมานี้ มีหลากหลายองค์กรที่ออกมาพัฒนาและนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้งานอย่างจริงจัง ซึ่ง Facebook ถือว่าเป็นอีก 1 องค์กรที่สนใจและผลักดันอย่างเต็มที่ โดยทางหัวหน้าฝ่ายออกแบบด้าน AR/VR ก็ได้มีการออกมาพูดถึงเรื่องนี้เช่นเดียวกัน

นาย Jon Lax หัวหน้าฝ่ายออกแบบด้าน AR/VR ของ Facebook ได้ออกมา Tweet เกี่ยวกับข้อความนี้ว่า ถึงเวลาสิ้นสุดยุคแรกของ VR แล้ว ในยุคต่อไปกำลังจะมาถึงในเร็วๆนี้ โดยทางเจ้าตัวได้ถือว่า การเปิดตัว Rift S และ Quest ถือว่าเป็นจุดสิ้นสุดและกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ โดยมีหัวข้อที่น่าสนใจและเป็นตัวกำหนดยุคต่างๆของเทคโนโลยีเสมือนจริงตัวนี้ออกมาให้ชมกันอีกด้วย โดยมีการแบ่งออกเป็นหัวข้อดังนี้

การแปรผันของเทคโนโลยี

ในหัวข้อนี้ ทางนาย Jon Lax ได้ระบุว่า ช่วงที่ผ่านมานั้นมีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด จากการมองเห็นแบบปกติ มาสู่การบังคับและระบุตำแหน่งอย่างชัดเจน โดยใช้ Controller หรือเทคโนโลยีอื่นๆ ช่วยในการระบุ ตัวอย่างเช่นเทคโนโลยีของ Facebook ที่เรียกว่า HalfDome ที่พึ่งเปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการพัฒนาเทคโนโลยี VR เหล่านี้ไปถึงขนาดไหนแล้ว

เทคโนโลยี Eye-Tracking

ปัจจุบันนี้มีหลายองค์กร ชูเทคโนโลยี Eye-Tracking เป็นส่วนประกอบหลักในการใช้งาน ซึ่งเทคโนโลยีตัวนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ลูกตาในการส่งคำสั่งต่างๆ เพื่อช่วยให้การใช้งานนั้นง่ายขึ้น โดยเฉพาะปัจจุบันนี้มีการขยายความละเอียดและมุมมองให้มากกว่าเดิมจากยุคแรกๆ ซึ่งหลังจากนี้คงจะมีความละเอียดและมุมมองที่มากขึ้นกว่าเดิมอีกมาก

เทคโนโลยี Finger-Tracking

Vive-Pro-Finger-Tracking-1000x500

ระบบการติดตามนิ้วของผู้ใช้งาน ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่อยู่พอสมควร แต่มีเพียงบริษัทเดียวที่สามารถนำออกมาใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบ นั่นคือ Valve ที่มีการพัฒนา Knuckles Controller หรืออุปกรณ์ควบคุมแบบสนับมือและยังมีการแจกจ่าย Source Code เพื่อให้นักพัฒนารายอื่นๆ สามารถนำไปต่อยอดได้ฟรีๆ อีกด้วย ในจุดนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้งานไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเราสามารถออกคำสั่งได้หลากหลายและยังมีการผสมผสานการใช้งานได้เหมือนกับนิ้วและมือของผู้ใช้งานจริงๆอีกด้วย

เทคโนโลยี Face & Body Tracking

เทคโนโลยีล่าสุดที่เริ่มมีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายกับการระบุใบหน้าและร่างกายของผู้ใช้งาน ซึ่งในปัจจุบันนี้ยังไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบนัก แต่ก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจุดเริ่มต้นก็มาจาก Motion Capture นั่นเอง ที่สามารถเก็บภาพการเคลื่อนไหวของใบหน้าและร่างกายของผู้ใช้งาน เพื่อสร้างเป็นภาพสามมิติของผู้ใช้ต่อไปและคาดว่าหลังจากนี้น่าจะมีการใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้น

ระบบ Room Scale

นี่เป็นเทคโนโลยีที่มีมาอย่างช้านาน เพียงแต่ยังไม่สามารถใช้งานในด้านอื่นๆ นอกจากการแจ้งตำแหน่งการใช้งานของแว่นได้ ซึ่งในอนาคตได้มีการพัฒนาระบบดังกล่าว เพื่อการใช้งานในด้านอื่นๆ ต่อไป

เทคโนโลยีไร้สาย

การใช้งานแบบไร้สาย ถือว่าเป็นสิ่งที่หลายๆคนต้องการเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะค่ายตัวเองที่ได้เปิดตัว Quest แว่น VR ไร้สายตัวแรก โดยมีระบบประมวลผลของตัวเอง แต่ในอนาคตยังคงมีการพัฒนาข้อบกพร่องต่างๆให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบประมวลผล , แบตเตอรี่ , หน่วยความจำ และส่วนอื่นๆ เพื่อให้การใช้งานแบบไร้สายสามารถใช้งานได้ดีไม่แพ้กับแว่นที่ใช้ร่วมกับ PC และอุปกรณ์อื่นๆ