มันคืออะไรและใช้อะไรได้บ้าง
ก่อนหน้านี้ทาง SiamVR เคยลงข่าวเกี่ยวกับแว่น AR สารพัดนึกของหลายๆแบรนด์ให้ชมกันมาแล้ว รวมทั้ง Magic Leap ด้วย แต่ดูเหมือนว่าแบรนด์นี้จะได้รับความสนใจจากสื่อต่างชาติรวมทั้งของไทยหลายๆสำนัก จนทีมงานนั้นรู้สึกว่าแว่นแบรนด์นี้มันพิเศษกว่าตัวไหนๆมากเหลือเกิน จนสุดท้ายเราเลยต้องมาเขียนเป็นข่าวพิเศษให้ผู้อ่านได้ทำความรู้จักและทำความคุ้นเคยกับแบรนด์นี้กันให้ได้ สำหรับใครที่อยากได้สิ่งนี้ไว้สำหรับทำงานและความบันเทิงในอย่างเดียวกัน นี่คือบทความที่จะทำให้คุณหลงรักและอย่างจะได้เจ้าสิ่งนี้มาครอบครองในท้ายที่สุดอย่างแน่นอนครับ
Magic Leap คืออุปกรณ์ที่จะทำให้เราสามารถชมภาพแบบ 3 มิติได้ผ่านทางแว่นตาเสมือนจริง หรือจะเป็นเครื่องฉายโฮโลแกรม 3 มิติที่เราๆท่านๆรู้จักกันเป็นอย่างดี ทีนี้เราจะมาเจาะลึกกันว่า Magic Leap ถ้าออกมาเป็นชั้นเป็นอันจะมีหน้าตาหรืออยู่ในสภาพแบบไหนบ้าง ที่ทีมงานคิดไว้คือว่าจะต้องมีหน้าตาลักษณะคล้ายๆกับแว่นสามมิติที่ทางด้าน Osterhout Design Group ซึ่งเป็นพัฒธมิตรร่วมกับทาง BMW และ MINI บริษัทยานยนต์ชั้นนำจากเยอรมันนีและอังกฤษ ที่เคยสร้างแว่น AR สุดล้ำออกมาเพื่อใช้เป็นของแถมให้กับผู้ที่ซื้อรถเพื่อใช้เป็นตัวช่วยในการขับขี่ยานพาหนะให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้นเอง หากใครคิดไม่ออกว่าจะออกมาหน้าตาแบบไหน ลองชมคลิปการทำงานของแว่นที่ว่านี้ดูครับ
อันดับต่อมาที่คาดการณ์กันไว้ว่า Magic Leap อาจจะทำชิ้นส่วนเล็กๆเพื่อใส่เข้าไปในอุปกรณ์สื่อสารจำพวก Pocket Computer หรืออาจจะเป็น Smartphone รุ่นล้ำๆ ด้วยความที่เล็กกะทัดรัดจนสามารถใส่เข้าไปได้ เพื่อที่จะสามารถใช้งานควบคู่กับชุดแว่นตา 3 มิติได้อย่างเต็มระบบหรืออาจจะสามารถแปลงร่างเจ้า Pocket Computer เป็น Pocket Projector ขนาดพกพาที่คุณสามารถพกมันไปที่ไหนก็ได้
ถ้าหากว่าทำออกมาจนเป็น Pocket Computer จะต้องมีคุณสมบัติแบบไหนบ้างถึงจะเหมาะกับการใช้งาน
นี่เป็นโจทย์ที่ทางทีมงานก็ค้นหากันเยอะพอสมควรเลยครับว่าถ้าอุปกรณ์ตัวที่บอกนั้น ถ้าออกมาเป็นชิ้นเป็นอันแล้ว จะต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานอย่างไรบ้าง และในเมื่อมันเป็นแบบพกพา แน่นอนว่ามันต้องมีชิ้นส่วนที่เก็บกักพลังงานไว้สำหรับการใช้งาน ถ้าหากว่ามันมีขนาดเท่ากับโทรศัทพ์มือถือ แบตเตอรี่ของมันก็จะต้องมีความจุขั้นต่ำอย่างน้อยสุด 5000mAh ในส่วนของชิพประมวลผลการทำงานนั้น ในปัจจุบัน CPU/GPU รุ่นใหม่ๆก็สามารถทำงานหนักๆได้เรียกว่าในระดับน้องๆของพวก CPU ที่ใส่เข้าไปใน Notebook ก็เลยก็ว่าได้ ดังนั้นจึงไม่น่าใช้ปัญหาการประมวลผล ชิ้นส่วนความจำชั่วคราวอย่าง Ram นั้นปัจจุบันในอุปกรณ์พกพาทั้งหลาย สามารถบรรจุ Ram ได้ในระดับ 3 – 4 GB เลยทีเดียว และคาดว่า Pocket Computer นั้นก็น่าจะใส่กันในระดับนี้เช่นเดียวกันครับ และที่สำคัญสุดก็คือ Laser Projector ตัวที่จะทำให้ภาพที่ถูกนำไปประมวลผลและส่งข้อมูลมาเพื่อให้เลนส์นั้นฉายออกมาเป็นภาพให้ชมนั่นเองครับ ดูภาพทางด้านบนเป็นตัวอย่างได้ครับว่า Magic Leap นั้นสามารถขยายภาพ 3 มิติให้คนดูจำนวนมากได้ชมกันขนาดไหน
ถ้าหาก Magic Leap ทำเป็นแว่นตาจะเป็นอย่างไร
จากที่เกริ่นไปในช่วงบนนั้น Magic Leap เป็นเหมือนเลนส์ที่ทำหน้าที่ได้ทั้งหน้าจอและเลนส์ฉายภาพนั่นเอง แต่ถ้าหากว่าเจ้าตัวนี้มันออกมาเป็นแว่นนั้น การทำงานและการใช้งานก็จะต่างกับเจ้า Pocket Projector โดยปริยาย แต่เราจะมาเจาะลึกในส่วนของแว่นกันนะครับว่าจะเป็นอย่างไร ในส่วนของแว่นตานั้นก็จะมีองค์ประกอบเหมือนกับพวกแว่น AR ทั่วๆไป มีทั้งหูฟังสำหรับฟังเสียงประกอบ มีกล้องสำหรับบันทึกภาพและวิดีโอแล้วก็มีเลนส์ที่เป็นหน้าจอและฉายภาพข้อมูลต่างๆให้ชมกันนะครับ ซึ่งวิธีการทำงานของเลนส์นี้จะซับซ้อนเอามากๆ ดังนั้นต้องตั้งใจอ่านกันให้ดีๆนะครับ
หลักการทำงานของเลนส์ในแบรนด์นี้จะมีอะไหล่ที่เป็นส่วนประกอบ ซึ่งดูได้จากภาพทางด้านบนนะครับ จะมีอะไหล่รวมกันถึง 12 ชิ้น ซึ่งเยอะพอสมควรเลยกับอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็กอย่างนี้ การทำงานนั้นก็จะมีอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่จะถูกหน่วยประมวลผลดึงไปใช้งาน เมื่อหน่วยประมวลผลทำงานก็จะส่งข้อมูลไปตามสายและถูกอุปกรณ์เล็กๆแปรค่าออกมาเป็นภาพและเสียง แล้วจากนั้นก็จะแยกเป็นภาพมาที่เลนส์ให้เราชมพร้อมกับเสียงที่เราฟังในหูฟังครับ
นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์สำคัญอีก 1 ชิ้นที่เป็นส่วนสำคัญในการแสดงผลของภาพนั่นเอง สาย Fiber ขนาดจิ๋ว ที่สามารถฉายภาพความคมชัดสูงได้ ซึ่งทำหน้าที่ส่งภาพมายังเลนส์บนแว่น ด้วยอัตราการกระพริบของภาพที่ 24 kHz เพื่อส่งภาพไปที่เลนส์ที่จะกรองภาพออกมาให้ชัดขึ้น ถ้าไม่มีเลนส์ตัวนี้ ภาพที่ออกมาก็จะไม่สมจริงเท่าที่ควร และเลนส์ที่มีนี่แหละครับจะช่วยขยายภาพออกมาให้ชัดมากขึ้น ด้วยหลักการทำงานในการหักเหของแสง เลนส์ตัวนี้จึงเป็นเหมือนแว่นขยายที่จะขยายภาพที่ส่งมาจากสายใยแก้วให้ภาพได้แสดงผลออกมาในรูปแบบที่ควรจะเป็นนั่นเอง
เมื่อ Magic Leap เป็นกล้องอีกทีจะเป็นอย่างไร
อะไรที่เป็นเลนส์รับหรือฉายภาพนี้ Magic Leap ดูจะเหมาหมดเลย ซึ่งดูน่าสนใจไม่น้อยเลยนะครับว่าเลนส์ของเขาดีขนาดไหน ทำไมถึงได้อยู่ในทุกวงการแบบนี้ เนื่องจากว่าแบรนด์ชื่อดังอย่าง World Camera นั้นได้สนใจอุปกรณ์ชิ้นนี้ขึ้นมา จึงได้ลองนำมาทดสอบในการเก็บภาพนั่นเองครับ วิธีการทำงานของมันจะเป็นแบบคู่ขนาน เพราะบนแว่นนั้นจะมีเลนส์ ซ้าย ขวา โดยการทำงานนั้นจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง คอยส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปมาหากันและประมวลผลออกมาเป็นภาพอีกทีหนึ่ง (ภาพทางด้านบน) ถ้าเป็นแบบนี้ก็สนุกสิครับ แว่นเพียงอันเดียวทำงานครอบจักรวาลเลย
หากดูรวมๆแล้ว Magic Leap จะเป็นเหมือนอุปกรณ์สารพัดประโยชน์ที่เป็นทั้ง Input และ Output ในคราวเดียวกัน และยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับอุปกรณ์อื่นๆได้อีกด้วย ในตอนนี้ทางผู้พัฒนาเลนส์ตัวนี้ก็กำลังผลิตออกมาเป็นแว่นอยู่ ราคานั้นยังไม่มีประกาศบอกมาอย่างเป็นทางการเสียที แต่น่าจะพอๆกับเจ้าอื่นๆที่ทำออกมาก่อนหน้านี้ และในอนาคตนั้นถ้าวางจำหน่ายเมื่อไหร่ทีมงานจะนำมารีวิวแบบเต็มๆให้ชมกันนะครับ ขอให้ติดตามกันไว้ด้วยละกันครับผม
Source : gpuofthebrain.com
