Lumus Optics แว่น Augmented Reality จากโปรเจคความร่วมมือยักษ์ใหญ่ของบริษัทชื่อดัง

แว่น AR ที่ได้เงินระดมจากแบรนด์ยักษ์ใหญ่ 4 แบรนด์

แว่น Augmented Reality ชื่อดังที่เราเคยนำเสนอไปไม่ว่าจะเป็น Meta 2, Microsoft HoloLens และยักษ์ใหญ่รายล่าสุดอย่าง Magic Leaf ก็กำลังพัฒนากันอยู่ แต่ดูเหมือนว่าเรากำลังจะได้เห็นแว่น AR ยักษ์ใหญ่แบรนด์ที่ 4 กันแล้วนะครับ แล้วต้องบอกเลยว่าแว่น AR อันนี้เป็นการระดมทุนครั้งมโหฬารของบริษัทชั้นนำที่มีประสบการณ์ด้านเทคโนโลยี Augmented Reality และ Virtual Reality อีกด้วยนะครับ

lumus-glases

Lumus Ltd. บริษัทด้านเทคโนโลยีชื่อดังประกาศเตรียมตัวสร้างแว่น Augmented Reality หรือ Lumus Optics (ชื่อที่ทางทีมงานตั้งให้ชั่วคราว) โดยการระดมทุนก่อตั้ง Project นี้ได้มากถึง $30 ล้านหรือประมาณ 1,050 ล้านบาทเลยทีเดียว และนอกจากนั้นยังมีอีก 4 บริษัทชั้นนำร่วมทุนและช่วยพัฒนา Project นี้อีกด้วยได้แก่ Quanta, HTC, Shanda Group และ Crystal-Optech โครงการนี้เริ่มต่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน ถือว่าโครงการนี้กำเนิดและดำเนินงานกันได้เร็วมากเลยนะครับ โดยเฉพาะทาง HTC ที่เราก็ทราบๆกันอยู่แล้วว่าบริษัทนี้เป็นเจ้าของร่วมกับทาง Valve ในการสร้าง HTC Vive แว่นเสมือนจริงบน Steam แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ทาง HTC กำลังจะขึ้นมาครองตลาดทั้งหมวด AR และ VR ตามลำดับอีกด้วย ส่วน Lumus นั้นเป็นบริษัทที่ทำงานเกี่ยวกับทางด้าน Augmented Reality เริ่มก่อตั้งขึ้นมาในปี 2000 และทำงานร่วมกับบริษัทอื่นๆเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AR ให้กับบริษัทต่างๆโดยเฉพาะ และตอนนี้ก็เป็นเวลาที่ Lumus จะขึ้นมามีแว่น AR ที่เป็น Signature ของตัวเองบ้างเสียที สำหรับโครงการนี้จะได้เห็นหน้าตาของแว่นต้นแบบกันในช่วงปี 2018 โน่นเลยครับ แต่ปีหน้าเราก็อาจจะได้เห็นสิทธิบัตรออกมาให้เราได้ชมกัน ส่วนราคาวางจำหน่ายอาจจะถูกกว่าแว่น AR รุ่นพี่อย่าง Meta 2, Microsoft HoloLens และ Magic Leaf แน่นอนครับ

dk-45-press

ข่าวนี้ทีมงานถือว่าพาผู้อ่านทุกคนไปทำความรู้จักกับเจ้า Lumus Optics กันแบบคร่าวๆก่อนนะครับ ในครั้งต่อๆไปทีมงานจะเริ่มนำข้อมูลที่ทางผู้พัฒนามาอัพเดทให้กับแฟนๆ SiamVR ได้ชมกัน ใครที่อยากเล่นเกม Yu-Gi-Oh แบบ AR หรือ Pokemon Go ในอนาคตนั้นเราจะไม่ต้องใช้มือถือมาเปิดดูหน้าจอกันแล้วนะครับเพราะว่าแว่น AR รวมไปถึงแว่นอันนี้ก็จะสามารถเล่นเกมเหล่านี้ได้ หรือจะทำงานเป็นแบบ 3 มิติก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียวนะครับ แต่จะติดตรงเรื่องราคามากกว่าว่าจะวางจำหน่ายในราคาเท่าไหร่ แต่รับรองว่าอาจจะถูกกว่ารุ่นพี่ทั้ง 3 แบรนด์ที่ได้เกริ่นไปอย่างแน่นอนครับ