รีวิวเปรียบเทียบ Gear VR 2.0 กับ VR BOX มันแตกต่างกันอย่างไง

Review: แนะนำแว่น VR 3 แบรนด์ดังพร้อมเปรียบเทียบจุดเด่นแต่ละแบรนด์ให้มือใหม่และมือโปร

ในตอนนี้บนโลกเรามีแว่นเสมือนจริงออกมามากมายหลายแบรนด์หลายรุ่นมาก ทั้งแบบ PC และ Smartphone และเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้ทำให้คนเราหันมาใช้โทรศัพท์มือถือกันมากขึ้น ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ต่างก็พกมือถือกันทุกคน แม้กระทั่งแว่นเสมือนจริงก็ยังมีใช้งานร่วมกับมือถือ วันนี้ทีมงานมีข้อแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจอยากเลือกซื้อแว่น VR สักอันไว้ใช้งานร่วมกับมือถือของเรา พร้อมกับข้อมูลเปรียบเทียบและข้อดีข้อเสีย เพื่อให้ผู้อ่านได้เลือกแว่น VR ที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเองด้วย

แนะนำแว่น VR จาก 3 ค่ายดัง

Gear VR 2.0

gear-vr-2-0

%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7-gear-vr-2-0 samsung-gear-vr-2-0

แว่น VR จากแบรนด์ดังของประเทศเกาหลีใต้ที่ร่วมมือกับ Oculus สำหรับแว่นอันนี้มีความล้ำสมัยมากๆ แถมยังใช้ Software แจ่มๆ จากทาง Oculus เหมาะมากๆกับผู้ใช้มือถือของ Samsung ตั้งแต่ Galaxy S6, S6 edge, S6 Edge+, Note5, S7 และ S7 edge และเร็วๆนี้ทางผู้พัฒนาได้ส่ง Gear  VR 2.0 ซึ่งเป็นรุ่นที่พัฒนาเพิ่มเติมจาก Gear VR รุ่นแรกโดยเปลี่ยนสีของตัวแว่นจากสีขาวเป็นสีดำ และยังพัฒนาในเรื่องของการสวมใส่ให้ผู้ใช้งานสามารถนำไปใช้กับทุกสภาวะได้อย่างดีขึ้น หมดปัญหาเรื่องของความอึดอัดที่เกิดจากการสวมใส่ นอกจากนั้นยังมีพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ 3.1 Type-C สำหรับ Samsung Galaxy Note 7 รุ่นล่าสุด และยังสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Motion controller / External Censor หรือแม้แต่ USB memory ที่เราสามารถเก็บหนังไว้ได้โดยไม่หนักเครื่อง

จุดเด่น

-รองรับการทำงานสำหรับเกมหรือแอพฯที่ใช้งานประสิทธิภาพเครื่องสูงได้ แถมให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจสุดๆ

-เทคโนโลยีของ Oculus ที่เป็นเหมือนต้นแบบของแว่น VR ทั่วโลกช่วยให้ Gear  VR 2.0 สามารถใช้งานได้ไม่เหมือนใคร

-ไม่มีของปลอมลอกเลียนแบบออกมาจำหน่าย

-มี USB Port รองรับการเชื่อมต่อจากภายนอกสำหรับ External Censor/Motion Controller/OTG

-มี Sensor แยกที่ทำงานร่วมกันกับเทคโนโลยีในมือถือทำให้การเคลื่อนไหว Smooth ขึ้นกว่าเดิมและช่วยให้ผู้ใช้งานมึนหัวน้อยลง

จุดด้อย

-แอพฯที่ใช้งานจะต้องโหลดผ่าน Oculus Home เท่านั้น

-รองรับเฉพาะมือถือรุ่น flagship ของ Samsung เท่านั้น สำหรับ Gear VR2.0 จะมี Port USB 3.1 Type-C สำหรับ Galaxy Note7 และมี Adaptor สำหรับรุ่นอื่นๆตั้งแต่ Galaxy S6 เป็นต้นไป

 

VR Box

vr-box-%e0%b8%84%e0%b8%b7%e0%b8%ad vr-box %e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7-vr-box

แว่นเสมือนจริงที่ถูกพัฒนาโดยได้ต้นแบบมาจาก Google Cardboard ของทาง Google เอง และเป็นแบรนด์ที่มีขายทั่วไปตามเว็บไซต์หรือท้องตลาด จุดเด่นของ VR Box คือสามารถใช้งานได้ทั้งมือถือของ iOS และ Android ที่มีขนาด 3.5 นิ้วถึง 6 นิ้ว และยังมี Remote Bluetooth แถมมาให้กับตัวแว่นอีกด้วย แถมยังรองรับการใช้งานทั้งเกมและภาพยนตร์ 3D 360 องศาได้เช่นกัน และด้วยความที่มีราคาย่อมเยาจึงทำให้แบรนด์นี้เป็นที่แพร่หลายในวงกว้างมากทั้งในและต่างประเทศ

จุดเด่น

  • มีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละคน
  • มี Remote ที่สามารถปรับแต่งหรือรองรับการเล่นเกม VR ได้อีกด้วย
  • ราคาถูกมากเมื่อเปรียบเทียบกันแบรนด์อื่นๆ

จุดด้อย

  • มีฟังค์ชั่นน้อยเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ เพราะตัวแว่นจะเน้นประสิทธิภาพจากมือถือมากกว่า
  • ไม่มีช่องเพิ่มเติมสำหรับการเชื่อมต่อจากภายนอก
  • มีของปลอมระบาด ผู้ซื้อต้องเลือกซื้อกับเจ้าที่มีความน่าเชื่อถือเท่านั้น
  • อุปกรณ์ที่แถมมานั้นมีเพียงบางรุ่นเท่านั้น เช่น รุ่น a ราคาแพงกว่ารุ่น b แต่มี Remote แถมให้ แต่รุ่น b ถูกกว่ากลับไม่มีอะไรให้เลย
  • คุณภาพและความสมจริงของภาพค่อนข้างต่ำ

Lenovo ANTVR

lenovo-antvr

แว่น VR จากค่าย Lenovo ของประเทศจีน ในตอนแรกออกแบบมาเพื่อใช้งานกับมือถือของ Lenovo เท่านั้น แต่ภายหลังก็ได้ออกแบบมารองรับการทำงานกับมือถือแบรนด์อื่นๆที่มีขนาดหน้าจอตั้งแต่ 5 นิ้วขึ้นไปจนถึง 6 นิ้ว ความสามารถการใช้งานนั้นจะอิงจากมือถือของผู้ใช้เองเป็นหลักเท่านั้น ไม่มีพอร์ตเชื่อมต่อหรืออุปกรณ์ควบคุมใดๆทั้งสิ้น เหมือนกับของ Google Cardboard นั่นแหละครับ

จุดเด่น

  • สามารถใช้งานกับมือถือได้แทบทุกรุ่นที่สามารถเล่นแอพฯ VR ได้
  • เป็นแบรนด์มีชื่อทำให้ผู้ใช้สามารถวางใจกับทางแบรนด์ได้

จุดด้อย

  • ไม่ต่างอะไรกับ Google Cardboard
  • ไม่มีช่องเพิ่มเติมสำหรับการเชื่อมต่อจากภายนอก
  • คุณภาพและความสมจริงของภาพค่อนข้างต่ำ

 

แบรนด์สินค้า/

คุณสมบัติ

 

Samsung Gear VR 2.0

VR Box

(Google Cardboard)

 

Lenovo ANTVR

 

รุ่นมือถือ/ขนาดของหน้าจอที่รองรับ

 

ใช้ได้เฉพาะมือถือของ Samsung ตั้งแต่ Galaxy S6, S6 edge, S6 Edge+, Note5, S7 และ S7 edge ทั้งของ iOS และ Andriod

3.5 – 6 นิ้ว

ทั้งของ iOS และ Andriod

5 – 6 นิ้ว

 

 

ระบบปฏิบัติการ

 

 

Android/Oculus

 

iOS/Android

 

iOS/Android

 

 

คุณภาพของภาพ

 

 

คมชัด

 

ค่อนข้างชัด

 

ค่อนข้างชัด

 

 

ความกว้างของภาพ

 

 

96 องศา

 

90 องศา

 

100 องศา

 

อุปกรณ์บังคับการใช้งาน

 

 

 

Touch Pad ด้านข้างของตัวแว่น

 

 

 

Remote Bluetooth

 

ไม่มี
 

รองรับอุปกรณ์เสริม

รองรับ อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ USB port เช่น Joystick Controler, Motion Controler, Movement sensor และ OTG USB Memory  

ไม่รองรับ

 

ไม่รองรับ

 

 

ราคา

 

 

3,500 บาท

 

600 – 1,000 บาท

 

1,200 บาท

 

เปรียบเทียบการใช้งาน Gear VR 2.0 กับ VR BOX

เทคโนโลยีและ Software

ในเรื่องของเทคโนโลยีต่างๆที่มากับตัวแว่นนั้นทางด้านของ Gear  VR 2.0 กินขาดเลยไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี Gyro, Accelerometer และ Proximity ที่จะคอยตรวจจับการเคลื่อนไหวของตัวผู้ใช้เอง และยังมีแอพฯเด่นๆออกมามากมาย โดยเฉพาะเกมต่างๆที่ทำออกมาได้สนุกและเทียบเท่าเกม VR บนคอมพิวเตอร์ที่เล่นผ่าน Oculus Rift หรือ HTC Vive เลยทีเดียว แถมยังใช้งานผ่าน Oculus Home ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานแอพฯเฉพาะของทาง Oculus ได้อีกด้วย และยังมีอุปกรณ์เสริมที่สามารถใช้งานร่วมกันได้ ทำให้ผู้ใช้งานมีตัวเลือกในการเล่นอีกมากมาย สำหรับ VR Box นั้นถึงแม้ว่าราคาจะถูกกว่าแต่ก็ไม่มีลูกเล่นอะไรมากมายนัก ถ้าเปรียบกับ Gear VR มักจะเน้นไปทางด้านของการชมภาพยนตร์ 3D หรือชมภาพแบบ 360 องศา ส่วนของ Lenovo ANTVR นั้นถึงแม้ว่าตัวแว่นจะรองรับการใช้งานกับมือถือได้แทบทุกรุ่นก็จริงแต่ว่าไม่มีอะไรให้ปรับแต่งแม้แต่น้อย ซึ่งต้องพึ่งความสามารถของมือถือเอาเอง

คุณภาพและความสมจริงของภาพ

ในด้านคุณภาพของภาพที่รับชมนั้น Gear VR 2.0 เป็นต่ออยู่หลายคุณมาก ด้วยเทคโนโลยีที่กล่าวไว้ข้างต้นและแอพฯต่างๆที่ผู้พัฒนาได้ปล่อยออกมานั้น ทำให้มือถือและตัวแว่นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ภาพที่ออกมาจึงมีความคมชัดและสมจริงมากถึงมากที่สุด ส่วนของ VR Box และ Lenovo ANTVR นั้นภาพจะชัดหรือไม่ชัดจะวัดจากตัวมือถือเท่านั้น ซึ่งแตกต่างกับ Gear VR ที่ตัวมือถือกับแว่นทำงานประสานเข้าหากันอย่างลงตัว สำหรับแอพฯการเล่นวิดีโอของ VR Box และ Lenovo ANTVR นั้นจะเป็นแอพฯของ Android เป็นหลัก ไม่ใช้แอพฯเฉพาะเหมือนกับที่ Oculus ทำออกมาจึงทำให้ตัวเครื่องนั้นไม่สามารถเรียกประสิทธิภาพสูงสุดของความละเอียดภาพออกมาได้

ความไหลลื่นในการเล่นเกม

ด้วยความที่ Samsung มีมือถือที่สเปคสูงแทบทุกรุ่นอยู่แล้ว บวกกับเทคโนโลยีของ Gear VR 2.0 ทำให้เกมและภาพมีความไหลลื่นแบบไม่มีกระตุก ส่วนของ VR Box และ Lenovo ANTVR นั้นจะเล่นที่ตัวเครื่องเป็นหลักอยู่แล้ว ถ้าหากใช้งานหนักมากๆ เช่นการเปิดแอพฯหลายๆอย่างพร้อมกันและเล่นเกมไปด้วยก็จะทำให้เกิดการหน่วงหรือกระตุกของภาพ ถ้าเป็นภาษาของเกมเมอร์คือ frame rate ตกนั่นเอง แต่ใน App Store หรือ Play Store นั้นก็ยังไม่มีเกมที่สามารถเทียบชั้นกับเกมของ Gear VR 2.0 ได้เลยในตอนนี้ดังนั้น Gear VR 2.0 เหนือกว่าด้วยประการทั้งปวง

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้ที่สนใจในเทคโนโลยี Virtual Reality ได้ค้นพบแว่นเสมือนจริงของท่านเองนะครับ ซึ่งแต่ละแบรนด์นั้นก็มีจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกันไป แต่สิ่งสำคัญคือการหาแว่นที่เหมาะสมกับฟังค์ชั่นการใช้งานของตัวเองมากกว่าครับ ถ้าชอบแบบไหนก็ซื้อมาใช้งานกันได้เลยครับไม่ว่าจะเป็นแบรนด์อะไรก็กดมาเลยครับ